Apple เปิดตัว iPhone 16E รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมการออกแบบใหม่ ไร้ปุ่มโฮม และไม่มีระบบชาร์จ MagSafe โดยมาพร้อมกับพอร์ต USB-C, หน้าจอแบบรอยบาก, ปุ่ม Action Button ที่สามารถปรับแต่งได้, ชิป A18 ที่ทรงพลัง และฟีเจอร์อีกมากมายในราคาที่จับต้องได้เพียง 599 ดอลลาร์ แล้วมันจะเหมาะกับคนที่มองหา iPhone รุ่นเล็กหรือไม่? และปุ่ม Action Button มีประโยชน์จริงหรือ? นี่คือความคิดเห็นแรกของทีมงาน The Verge เกี่ยวกับ iPhone 16E
ลาก่อนปุ่มโฮม สวัสดี Face ID
Quentyn Kennemer กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า:
“ผมเป็นแฟนของปุ่มโฮมเหมือนคนอื่น ๆ แต่บางทีถึงเวลาที่ต้องบอกลามันไปได้แล้ว การใช้ท่าทางปัดหน้าจอ (Swipe gestures) ตอนนี้เป็นธรรมชาติและลื่นไหลกว่า ผมไม่คิดถึงขอบจอที่หนาอีกต่อไป และหน้าจอ OLED แบบขอบจรดขอบเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าผมจะไม่ชอบรอยบาก แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานมากกว่าที่จะเป็นอุปสรรค”
Action Button ฟีเจอร์ที่คาดไม่ถึง
Todd Haselton รู้สึกตื่นเต้นที่เห็น Action Button มาบน iPhone 16E:
“Apple นำปุ่ม Action Button มาสู่ iPhone 16E ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ฮาร์ดแวร์ที่ดีที่สุดของ Apple ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผมตั้งให้มันเปิดไฟฉาย และใช้มันบ่อยมาก นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าให้เปิดแอปแปลภาษา กล้อง หรือคำสั่งลัดได้อีกด้วย ถือเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์ เพราะก่อนหน้านี้ Apple มักจะใช้ชิปรุ่นใหม่ใน iPhone SE รุ่นกลางปี แต่ไม่ค่อยเปลี่ยนดีไซน์มากนัก”
ไม่มี MagSafe แล้วจะเป็นยังไง?
Nathan Edwards ให้ความเห็นเกี่ยวกับการตัด MagSafe ออก:
“ผมไม่ได้สนใจเรื่องความเร็วของ MagSafe เท่าไหร่ เพราะชาร์จผ่านสายเร็วกว่ามากอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ผมจะคิดถึงคือ แหวนแม่เหล็กของ MagSafe ที่ทำให้ยึดติดกับอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้สะดวก แน่นอนว่าคุณสามารถซื้อเคสแม่เหล็กมาใช้แทนได้ แต่ถ้ากล้องดีพอ ผมก็ไม่ถือว่านี่เป็นปัญหาใหญ่นัก”
หน้าจอ OLED 6.1 นิ้ว ขนาดกำลังดี
Emma Roth ชื่นชมที่ iPhone 16E ใช้ หน้าจอ OLED และมีขนาดเหมาะสม:
“iPhone 16E มีหน้าจอขนาด 6.06 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่ารุ่น iPhone SE (2022) แต่ใกล้เคียงกับ iPhone 16 รุ่นปกติ มันอาจจะเล็กกว่าหน่อยแต่ก็พกพาง่ายขึ้น สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นที่สุดคือ Apple ใช้ OLED Display ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เคยมีเฉพาะบนรุ่นแพงกว่า นี่เป็นสัญญาณที่ดีที่ Apple นำฟีเจอร์ระดับพรีเมียมมาสู่รุ่นประหยัด”
ขับเคลื่อนด้วยชิป A18 – แรงแต่ประหยัด
Antonio G. Di Benedetto รู้สึกโล่งใจที่ Apple ใช้ชิป A18:
“ผมดีใจที่ iPhone 16E ใช้ ชิป A18 แบบเดียวกับ iPhone 16 และ 16 Plus เพราะมันช่วยให้โทรศัพท์รุ่นนี้รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ไปได้อีกหลายปี แม้ว่ามันจะมี GPU น้อยกว่าหนึ่งคอร์ เมื่อเทียบกับรุ่นแพงกว่า แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใช้ทั่วไปจะรู้สึกได้ ผมคิดว่านี่เป็นข้อได้เปรียบใหญ่ของ iPhone 16E ที่ให้ชิปรุ่นใหม่ล่าสุดมาในราคาประหยัด”
USB-C มาแทน Lightning – การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น
Jay Peters กล่าวถึง USB-C ว่า:
“ผมชอบ iPhone 12 Mini ของผมมาก แต่เริ่มอยากเปลี่ยนไปใช้ USB-C อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงิน 599 ดอลลาร์เพื่อ USB-C เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่คุ้มค่าสำหรับผม ตอนนี้อุปกรณ์ที่ใช้ Lightning ของผมยังทำงานได้ดี ดังนั้นผมอาจจะรอดู iPhone 17 ก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยน”
Face ID ใช้งานง่ายกว่า Touch ID
David Pierce รู้สึกว่า Face ID เป็นระบบที่ดีกว่า:
“ทุกครั้งที่ผมกลับไปใช้โทรศัพท์ที่ไม่มี Face ID หรือระบบสแกนใบหน้าที่คล้ายกัน ผมรู้สึกว่ามันยุ่งยาก Face ID ทำให้การปลดล็อก การจ่ายเงิน และการเข้าถึงรหัสผ่านง่ายขึ้นมาก ผมชอบความรู้สึกที่สามารถปลดล็อกโทรศัพท์ได้ทันทีที่หยิบขึ้นมาใช้ มากกว่าต้องกดปุ่มสแกนนิ้วแบบเก่า”
กล้องหลังตัวเดียว แต่เพียงพอสำหรับหลายคน
Jess Weatherbed ไม่แปลกใจที่ iPhone 16E มีเพียงกล้องเดียว:
“กล้องหลังเพียงตัวเดียวของ iPhone 16E ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ เพราะมันสอดคล้องกับราคาและเป้าหมายของผู้ใช้งาน กลุ่มที่ต้องการฟีเจอร์กล้องระดับสูงมักเลือกใช้ iPhone Pro อยู่แล้ว ส่วน iPhone 16E ถูกออกแบบมาให้เข้าถึงง่ายและเหมาะกับผู้ที่ต้องการโทรศัพท์ที่ทันสมัยโดยไม่ต้องจ่ายแพง”
สรุป: ราคาที่คุ้มค่ากับฟีเจอร์ที่ได้รับ
Allison Johnson มองว่า iPhone 16E เป็น iPhone ที่คุ้มค่าที่สุดในรอบหลายปี:
“Apple ไม่ได้เสนอ iPhone ราคาประหยัดที่มีฟีเจอร์ครบถ้วนแบบนี้มานานแล้ว การเปิดตัว iPhone 16E ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เมื่อเทียบกับ Android ที่มีตัวเลือกดี ๆ ในช่วงราคานี้มาหลายปี iPhone 16E ถือเป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผล แม้ว่าการไม่มี MagSafe จะเป็นเรื่องแปลก แต่มันก็คุ้มค่าพอที่จะทำให้หลายคนเปลี่ยนจากรุ่นเก่ามาใช้ได้”