รีวิว Sigma BF: กล้องในฝันของคนรักความมินิมอล

Sigma BF

เมื่อพูดถึงกล้อง Sigma BF รุ่นใหม่ราคา 2,000 ดอลลาร์ (ราว 66,000 บาท) สิ่งแรกที่ผมนึกถึงคือรายการฟีเจอร์ที่มัน “ไม่มี” มากกว่าสิ่งที่มันมี ไม่มีหน้าจอพับได้ ไม่มีช่องต่อ hot shoe หรือ cold shoe ไม่มีช่องมองภาพ ไม่มีชัตเตอร์กลไก ไม่มี 4K 60fps ไม่มีพอร์ตไมโครโฟน ไม่มีระบบกันสั่นในตัว แถมยังไม่มีช่องสำหรับร้อยสายคล้องไหล่ด้วยซ้ำ ถ้าคุณเป็นคนที่ใช้กล้องแบบ “ครบเครื่อง” อย่างผม การปล่อยวางฟีเจอร์เหล่านี้มันยากจริงๆ

แต่ผมอยากให้คุณลองเปิดใจดู หลังจากได้ใช้ Sigma BF มาสองสามสัปดาห์ ผมต้องยอมรับว่ามันชนะใจผมได้ ด้วยดีไซน์ที่กล้าแตกต่าง ระบบควบคุมที่ฉลาด ซอฟต์แวร์ที่สะอาดตา และภาพถ่ายที่ออกมาสวยจนน่าทึ่ง มันอาจต้องใช้เวลาปรับตัวหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันคุ้มค่าจริงๆ

ดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร

Sigma BF ไม่ใช่กล้องที่คุณจะเห็นหน้าตาแบบนี้บ่อยๆ ตัวกล้องถูกแกะสลักจากอะลูมิเนียมชิ้นเดียว ทำให้ดูเรียบหรูและทันสมัยสุดๆ ปุ่มควบคุมมีแค่นิดเดียว ซึ่งทำให้ใช้งานง่ายจนน่าประหลาดใจ คุณพกมันไปได้เกือบทุกที่ ตราบใดที่จุดหมายของคุณไม่ใช่งานระดับสตูดิโอหรือถ่ายวิดีโอแบบจริงจัง เพราะผมมองไม่เห็นตัวเองหยิบกล้องตัวนี้ไปใช้ในงานแบบนั้นเลย แต่ถ้าคุณอยากได้กล้อง point-and-shoot ระดับไฮเอนด์ที่ให้ผลลัพธ์ดีๆ โดยไม่ต้องคิดเยอะ Sigma BF ตอบโจทย์มาก

ตัวกล้องมีดีไซน์มินิมอลแบบสุดโต่ง ขอบคมและเหลี่ยมชัดเจน มันไม่ได้จับถนัดมือมากนัก แต่ก็ไม่ถึงกับเจ็บ การใช้มือเดียวลำบากอยู่บ้าง และการที่ไม่มีช่องร้อยสายคล้องไหล่ที่สองนี่น่าหงุดหงิดนิดหน่อย Sigma อยากให้คุณใช้สายคล้องข้อมือ แต่ผมว่ามีตัวเลือกให้ทั้งสองแบบจะดีกว่า คุณอาจต่อสายเข้ากับช่อง tripod ได้ แต่ผมว่าแปลกๆ และดูเกินไปหน่อย

การควบคุมที่ฉลาดและสนุก

ผมชอบที่ Sigma ตัดวงแหวนควบคุมหลายๆ อันออกไป แล้วเหลือแค่วงเดียวที่ด้านหลัง มันกลายเป็นหัวใจของการใช้งานกล้องตัวนี้เลย เมื่อใช้คู่กับจอเล็กทรงแคปซูลด้านบน คุณสามารถเลื่อนเปลี่ยนการตั้งค่าได้ทันที ผมแอบอยากให้เลือกได้ว่าจะตัดตัวเลือกไหนออกบ้าง เพราะบางอันผมไม่ค่อยได้ใช้ แต่ข้อดีคือมันทำให้ผมลองเล่นอะไรใหม่ๆ เช่น อัตราส่วนภาพหรือโหมดจำลองฟิล์มบ่อยขึ้น มันเหมือนถูกบังคับให้ลองมุมมองใหม่ๆ และนั่นทำให้การถ่ายรูปสนุกขึ้นเยอะ

ที่เด็ดกว่านั้นคือ ถ้ากดชัตเตอร์ครึ่งหนึ่ง วงแหวนนี้จะเปลี่ยนไปควบคุมการชดเชยแสงทันที ปรับแสงได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องละสายตาจากช็อต เป็นลูกเล่นที่ฉลาดและใช้ได้จริง ปุ่มอื่นๆ ก็มีทีเด็ดเหมือนกัน เช่น ถ้าคุณแตะปุ่มดูภาพค้างไว้ มันจะโชว์ภาพล่าสุดจนกว่าคุณจะยกนิ้วออก เป็นฟีเจอร์ทันสมัยที่เข้ากับความเรียบง่ายของกล้องมาก

เรื่องความเร็วก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เปิดกล้องปุ๊บใช้งานได้ทันที เปลี่ยนโหมดไว อ่านข้อมูลจากเซนเซอร์เร็ว ถ่ายต่อเนื่องก็โอเคสำหรับกล้องฟูลเฟรม เข้าถึงคลังภาพก็ลื่นไหลไม่สะดุด

หน่วยความจำและข้อจำกัด

ภาพทั้งหมดดูได้บนหน้าจอ 3.2 นิ้วที่ใหญ่ สว่าง และคมชัดพอใช้ เก็บไว้ใน SSD ภายในตัวกล้องขนาด 230GB แต่ไม่มีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำเพิ่มเติม คุณเลยต้องคอยสำรองข้อมูลบ่อยๆ และระวังอย่าให้เต็ม ผมไม่ซีเรียสเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่กังวลว่าถ้า SSD เสียขึ้นมาจะทำยังไง

ผมจะเข้าใจการตัดสินใจนี้มากกว่านี้ถ้า Sigma มีแอปสมาร์ทโฟนดีๆ สำหรับโอนภาพ แต่ไม่มีทั้งแอปและช่อง SD คุณต้องใช้สายเคเบิลอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นจุดตายสำหรับคุณหรือเปล่า ผมว่าเราคงเห็นตรงกันว่ากล้องในปี 2025 ควรมีทั้งหน่วยความจำในตัวและช่องขยายได้

คุณภาพภาพถ่ายที่ยอดเยอะ

ภาพจาก Sigma BF สวยสมกับเป็นกล้องฟูลเฟรม คมชัด มีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยรายละเอียด ผมใช้เลนส์ Sigma 50mm F/2 รุ่นอัปเดตมาคู่กับกล้องตัวนี้ ซึ่งเข้ากันได้ดีมาก แม้ในที่แสงน้อย เสียงรบกวนจาก ISO สูงก็จัดการได้ดี เกรนที่ออกมานุ่มนวลเหมือนฟิล์ม โดยเฉพาะเมื่อใช้โหมดจำลองฟิล์มของ Sigma

กล้องมีโหมดจำลองฟิล์ม 13 แบบ ซึ่งน่าจะเพียงพอให้ทุกคนเจอสไตล์ที่ชอบ ผมติดใจ Warm Gold, Teal & Orange และ Rich โดยเฉพาะ Warm Gold ที่ให้โทนอุ่น แดงนวลๆ และสีที่ลดความอิ่มลง น่าเสียดายที่ยังปรับแต่งโหมดเองไม่ได้ ตรงนี้รู้สึกเหมือนพลาดโอกาส เพราะ Fujifilm สร้างชุมชนช่างภาพจากโหมดฟิล์มที่แชร์สูตรกันได้ ซึ่ง Sigma อาจทำแบบนั้นได้เหมือนกัน

ระบบโฟกัสอัตโนมัติก็ทำให้ผมประทับใจ ตอบสนองไว ติดตามวัตถุได้ดี และจับใบหน้าหรือสัตว์ได้แม่นยำ ในโหมดวิดีโออาจมี focus breathing บ้าง แต่ถ้าถ่ายภาพนิ่ง ผมว่าน่าเชื่อถือมาก

วิดีโอ: จุดอ่อนที่ชัดเจน

ส่วนวิดีโอนั้นเหมือนเป็นของแถมมากกว่า รองรับ 6K ที่ 30FPS และภาพที่ออกมาก็ดูดีเลย ถ่ายได้ทั้ง H.264 และ H.265 ในโคเดก Log ของ Sigma และมีสโลว์โมชั่น 1080p ที่ 120fps แต่การออกแบบมินิมอลของมันทำให้ถ่ายวิดีโอยากขึ้น ปรับตั้งค่ากลางคันลำบาก ไม่มีหน้าจอพับ แบตเตอรี่อึดไม่พอ และไม่มีกันสั่นในตัวทำให้ภาพสั่นง่าย ผมไม่ได้บอกว่าถ่ายวิดีโอไม่ได้นะ แต่จุดเด่นของกล้องตัวนี้อยู่ที่การถ่ายภาพชัดๆ

สรุป: กล้องที่ไม่เหมาะกับทุกคน

สำหรับกล้องราคา 66,000 บาท Sigma BF ขาดอะไรไปเยอะมาก การให้คะแนนมันเลยยากกว่าที่คิด ถึงข้อเสียจะเยอะ แต่ผมสนุกสุดๆ กับการใช้มันในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ภาพที่ผมชอบที่สุดบางใบ แต่ผมไม่กล้าแนะนำให้ทุกคน เพราะมันไม่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ถ้าคุณอยากได้กล้องลูกผสมที่ทำได้ทุกอย่าง ไปหาตัวอื่นเถอะ แต่ถ้าคุณอยากได้กล้องทันสมัยที่ใช้สนุก ถ่ายภาพสวย มีฟีเจอร์ใช้งานฉลาดๆ และหน้าตาดีเหลือเกิน Sigma BF คือตัวเลือกที่เยี่ยมมาก

ผมเชื่อว่า Sigma BF จะทิ้งรอยไว้ในวงการถ่ายภาพ ไม่ใช่แค่ดีไซน์ที่กล้าหาญ แต่เพราะมันยึดมั่นในความเรียบง่ายแบบสุดโต่ง จะประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ไหม คาดเดายาก ราคาอาจทำให้หลายคนเมิน แต่ถ้าคุณเห็นมันแล้วรู้สึกสนใจ มันมีโอกาสชนะใจคุณได้แน่ๆ เหมือนที่มันชนะใจผมมาแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!